ออนไลน์ปลอดภัย

ลวงเด็กส่งรูปโป๊แลกไอเทมในเกม

สมัยนี้ เด็กกับมือถือแทบจะแยกออกจากกันไม่ออก เมื่อเด็กใช้เวลาอยู่หน้าจอ การเล่น โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ กับการเล่นเกม ส่งผลให้มิจฉาชีพ แฝงตัวมากับคนเล่นเกม อย่างที่เราทราบ ๆ กัน การเล่นเกม ยิ่งเล่น ยิ่งติด ยิ่งอยากเอาชนะ อยากผ่านด่านให้เร็ว ๆ ทำให้เสียเงินในการซื้อไอเทมเกม เพื่อมาตอบสนองในส่วนนี้ เป็นช่องทางที่มิจฉาชีพจะติดตามเด็กทางสื่อ โซเชียลมีเดีย รู้ว่าเด็กชอบ หรืออยากได้อะไรก็จะเข้ามาตีสนิท เป็นการนำไปสู่การถูกล่อลวงทางเพศ (Cyber Grooming) ติดต่อพูดคุยสร้างสัมพันธ์ให้เกิดความไว้วางใจเพื่อเป้าหมายการละเมิดทางเพศ เด็กทำการถ่ายภาพ คลิปวิดีโอ ที่ลามก อนาจาร เพื่อ “แลกไอเทมเกม”

คำว่า Grooming หมายถึง “การกระทำของผู้ใหญ่ที่ค่อย ๆ สร้างสานความสัมพันธ์หรือความรู้สึกดี ๆ เพื่อทำให้เด็ก ๆ เชื่อใจและไว้ใจ โดยมีจุดประสงค์เพื่อหลอกลวง ล่วงละเมิดทางเพศ แสวงหาประโยชน์ทางเพศ หรือการค้ามนุษย์” ส่วนใหญ่คนที่มาล่อลวงหรือที่เรียกว่า Groomer จะใช้ช่องทาง โซเชียลมีเดีย SMS เกมออนไลน์ แอปพลิเคชั่น เพื่อติดต่อกับเหยื่อ โดยคนเหล่านี้จะใช้เวลาในการติดตาม โดยมีรูปแบบดังนี้

  • เลือกเหยื่อ
  • เข้ามาตีสนิทในช่องทางต่าง ๆ
  • เติมเติมสิ่งที่เด็กต้องการ/ขาดหาย
  • ชักชวนไปพบเจอ
  • ชวนดูสื่อลามกอนาจาร
  • มีเพศสัมพันธ์กับเด็ก
  • ให้สิ่งตอบแทน
  • ข่มขู่ แบล็กเมล

คำแนะนำเด็กและเยาวชน เพื่อการใช้สื่อออนไลน์ อย่างปลอดภัย

1. ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีความปลอดภัยน่าเชื่อถือ

2. การใช้รหัสผ่านควรใช้รหัสผ่านที่มีความยาวไม่น้อยกว่าแปดตัวอักษร โดยมีตัวเลข ตัวอักษรและอักขระพิเศษผสมกัน ไม่ใช้รหัสผ่านตัวเดียวกันสำหรับทุกอย่าง ควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ

3. ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เหมาะสม โดยกำหนดค่า share ให้เห็นได้เฉพาะเพื่อนเท่านั้น

4. อย่าตอบรับเป็นเพื่อนกับคนที่ไม่รู้จัก

5. อย่าหลงเชื่อผู้ที่ใช้รูปของคนอื่นมาแอบอ้างเป็นเพื่อน ควรตรวจสอบก่อน เพื่อความมั่นใจ

6. ผู้ปกครองควรเข้าไปมีส่วนร่วมในการใช้งานกับลูกบ้างตามความเหมาะสม โดยอาจเพิ่มตนเองเป็นเพื่อนของลูกเพื่อเฝ้าดูความผิดปกติ

7. ใช้อายุใน Profile ตามความเป็นจริง เพราะเด็กอายุ 13-18 ปี จะได้รับการปกป้องคุ้มครองมากกว่า โดยเฉพาะการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและโฆษณาที่ไม่เหมาะสมกับอายุของเด็ก

8. เมื่อพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือถูกกลั่นแกล้ง อย่าตอบโต้ ควรบันทึกไว้เป็นหลักฐานปรึกษาผู้ปกครอง

9. หมั่นตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกิจกรรมและรายละเอียดในการเชื่อมต่อใช้งาน เมื่อไม่ใช้งานให้ออกจากระบบทุกครั้ง

10. รายงานผู้ให้บริการหรือผู้ดูแล Platform เมื่อถูกละเมิด

กฎหมายว่าด้วยสื่อลามกอาจารเด็ก

กรณีผู้กระทำผิดในลักษณะของสื่อละเมิดทางเพศเด็ก (CSAM – Child Sexual Abuse Material) ไม่ว่าจะเป็นกรณีมีสื่อดังกล่าวไว้ในครอบครองหรือเป็นผู้ผลิตหรือจัดจำหน่ายสื่อลามกอนาจารเด็กหรือเผยแพร่ส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กภายในกลุ่มผู้มีรสนิยมทางเพศแบบเดียวกัน หรือทำให้แพร่หลายซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบรูปภาพ ไฟล์เสียง วิดีโอ หรือการถ่ายทอดสด (Live Streaming) มีความผิดฐานมีไว้ในครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศหรือส่งต่อไปให้ผู้อื่น

  • ครอบครองหรือส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็ก

มาตรา 287/1 ผู้ใดครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

  • มีสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อประสงค์แห่งการค้า หรือแจกจ่าย เผยแพร่ โฆษณา

มาตรา 287/2 ผู้ใดเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้าเพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักรส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักรพาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก

(1) ประกอบการค้าหรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็กจ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก

(2) เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าสื่อลามกอนาจารเด็กแล้วโฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใด ๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าสื่อลามกอนาจารเด็กดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใดหรือโดยวิธีใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท

Previous article
อินโฟกราฟิก สายมูฟังทางนี้! คนที่เกิดวันต่อไปนี้มีเกณฑ์ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ : วันส่งเสริมอินเทอร์เน็ตปลอดภัย
Next article
ทีมงานมูลนิธิอินเทอร์เน็ตฯ มีโอกาสร่วมงานเปิดตัวกิจกรรมของ Facebook ประเทศไทยในฐานะพาร์ทเนอร์หลักจากโครงการ We Think Digital