ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลอนดอน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขที่ 11310749 สร้างโดย 2001:44C8:6003:B7C3:8852:6B5F:B103:EADE (พูดคุย)
ป้ายระบุ: ทำกลับ
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{กล่องข้อมูล เมือง
{{กล่องข้อมูล เมือง London เมือวหลวงของบริชเตนใหญ่
| settlement_type =[[เมืองหลวง]]
| settlement_type =[[เมืองหลวง]]
| image_shield = Royal Coat of Arms of the United Kingdom (HM Government) (2022).svg
| image_shield = Royal Coat of Arms of the United Kingdom (HM Government) (2022).svg
| name = ลอนดอน
| name london
| official_name = นครลอนดอนและปริมณฑล
| official_name = นครลอนดอนและปริมณฑล
| image_skyline = <center><imagemap>
| image_skyline = <center><imagemap>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:22, 4 กุมภาพันธ์ 2567

แม่แบบ:กล่องข้อมูล เมือง London เมือวหลวงของบริชเตนใหญ่

.

ลอนดอน (อังกฤษ: London, เสียงอ่านภาษาอังกฤษ: /ˈlʌndən/ ( ฟังเสียง) ลันเดิน) หรือ กรุงลอนดอน หรือ นครลอนดอน เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ นอกจากนี้ลอนดอนเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป และเคยเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรป (ปัจจุบันคือกรุงปารีสของฝรั่งเศส เนื่องจากสหราชอาณาจักรได้ออกจากสหภาพยุโรป) และ ยังเป็นเมืองที่มีศูนย์กลางทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก [1]

ลอนดอนเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจ การเมือง วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของโลก เป็นผู้นำด้านการเงิน[2] การเมือง การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่น และศิลปะ ในอดีตเป็นเมืองหลวงของโลก เป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นเมืองที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก ถือกันว่าเป็นเมืองสากลหลักของโลก จีดีพีของลอนดอน คิดเป็นร้อยละ 19.5 ของสหราชอาณาจักร ลอนดอนมีประชากรประมาณ 7.5 ล้านคน (ข้อมูลเมื่อปี พ.ศ. 2549) และประมาณ 12 - 14 ล้านคนถ้ารวมนครหลวงลอนดอนและปริมณฑล ลอนดอนเป็นเมืองที่ประกอบด้วยหลายชนชาติอย่างมาก ประชากรมีความหลากหลายทั้งด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนา และภาษา ซึ่งประมาณว่ามีมากกว่า 300 ภาษา[3] เราเรียกชาวลอนดอนว่า ลอนดอนเนอร์ (อังกฤษ: Londoner) นอกจากนี้ลอนดอนเป็นศูนย์กลางการคมนาคมในระดับนานาชาติ และเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของทวีปยุโรป โดยสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน คือ ท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์ คำขวัญภาษาละตินของนครลอนดอน คือ “Domine dirige nos” ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า “พระเจ้าทรงนำทางพวกเรา

ประวัติศาสตร์

ชื่อ ลอนดอน นักประวัติศาสตร์คาดว่าน่าจะมาจากชื่อกรุงลอนดอนในสมัยโรมันว่า ลอนดีนิอุม (ละติน: Londinium) ซึ่งเป็นภาษาละติน และเพี้ยนมาเป็นชื่อ "ลอนดอน" ในภายหลัง ถึงแม้ว่าชาวโรมันจะพิชิตอังกฤษได้ก็ตาม ลอนดิเนียมแห่งนี้อยู่เพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น ในปี ค.ศ. 61 ชาวเผ่าไอซินี นำโดยราชินีโบดิก้า บุกเข้ายึดลอนดึเนียม เผาทั้งเมือง และเข่นฆ่าชาวโรมันอย่างเหี้ยมโหด[4] แต่ในเวลาถัดมา ชาวโรมันสามารถยึดเมืองกลับคืนมาได้ และชนะการรบกับราชินีโบดิก้า ในราวศตวรรษที่ 2 ลอนดิเนียมรุ่งเรืองถึงขีดสุด และลอนดอนโรมันมีประชากรประมาณ 60,000 คน

ลอนดอนประสบอัคคีภัยครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1666) ส่งผลให้ผู้คนเชื่อว่าเลข 666 เป็นเลขแห่งความโชคร้าย การสร้างเมืองใหม่ใช้เวลาถึง 10 ปีด้วยกัน แต่ลอนดอนยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในเดือน มิถุนายน พ.ศ. 2560 กรุงลอนดอนนอกจากประสบกับเหตุก่อการร้ายยังประสบอัคคีภัย มีคนเสียชีวิต รวม 20 ราย หากรวมผู้ก่อการร้ายด้วยจะเป็น 24ราย

ฤดูกาลและภูมิอากาศ

สำหรับฤดูกาลโดยทั่วไปของอังกฤษ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดู แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมือง 4 ฤดูในหนึ่งวันอีกด้วย นั่นก็เพราะในบางวันที่ลอนดอนจะมีทั้งแดดออก ฝนตก หนาวเย็นและอบอุ่นสลับกันไป ซึ่งอากาศในช่วงกลางวันจะอบอุ่นกว่าค่าเฉลี่ยได้ 5-10 องศา และอากาศในตอนกลางคืนจะหนาวเย็นกว่าได้ประมาณ 5 องศา

1.ฤดูใบไม้ผลิ

ฤดูใบไม้ผลิ เป็นฤดูที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลงได้บ่อยที่สุด อาจมีทั้งอากาศอบอุ่น แสงแดดจัด หนาวเย็นและฝนตกสลับกันไป หรือสภาพอากาศเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในวันเดียวกันซึ่งทั้งนี้ช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะอยู่ในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม

  • เดือนมีนาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 9 องศาเซลเซียส
  • เดือนเมษายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 11 องศาเซลเซียส
  • เดือนพฤษภาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 14 องศาเซลเซียส

2. ฤดูร้อน

ฤดูร้อน สภาพอากาศจะมีความอบอุ่นเป็นส่วนใหญ่ และมีแสงแดดส่องตลอดวัน โดยช่วงฤดูร้อนก็จะอยู่ในเดือนมิถุนายน-สิงหาคม และยังเป็นช่วงที่กลางวันยาวนานมาก บางช่วง 2 ทุ่มกว่าแล้วเพิ่งจะเริ่มมืด โดย

  • เดือนมิถุนายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 16 องศาเซลเซียส
  • เดือนกรกฎาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 19 องศาเซลเซียส
  • เดือนสิงหาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 19 องศาเซลเซียส

3. ฤดูใบไม้ร่วง

ฤดูใบไม้ร่วง เป็นฤดูที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีและร่วงหล่นลงมามากกว่าปกติ แต่ก็ให้ความสวยงามและบรรยากาศที่น่าเที่ยวไม่น้อย โดยช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะอยู่ระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน โดย

  • เดือนกันยายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 17 องศาเซลเซียส
  • เดือนตุลาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 13 องศาเซลเซียส
  • เดือนพฤศจิกายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10 องศาเซลเซียส

4. ฤดูหนาว

ฤดูหนาวเป็นฤดูที่มีหิมะตก เหมาะกับการท่องเที่ยวสำหรับคนที่อยากสัมผัสกับหิมะเป็นที่สุด แต่จะมีหิมะตกบางพื้นที่เท่านั้น และกลางคืนจะยาวนานกว่ากลางวันอีกด้วย หรือกล่าวง่ายๆก็คือช่วงนี้จะมืดเร็วกว่าปกตินั่นเอง บางช่วงยังไม่ 5 โมงเย็นท้องฟ้าจะเริ่มมืดแล้ว ซึ่งช่วงฤดูหนาวก็จะอยู่ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมาพันธ์ โดย

  • เดือนธันวาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 องศาเซลเซียส
  • เดือนมกราคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 องศาเซลเซียส
  • เดือนกุมภาพันธ์ มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 องศาเซลเซียส

เครดิต: ตะลอนเที่ยวดอตคอม

เศรษฐกิจ

ลอนดอนถูกจัดอับดับโดย Mastercard Worldwide (มาสเตอร์การ์ด เวิรลด์ไวด์) ว่าเป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ อันดับหนึ่งของโลก [5] ลอนดอนยังเป็นศูนย์กลางของการอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมทั้งกิจกรรมธนาคารและการประกันภัยด้วย การอุตสาหกรรมในลอนดอนมีความหลากหลายตั้งแต่อุตสาหกรรมที่ไม่มีฝีมือจนถึงช่างฝีมือ รวมทั้งอุตสาหกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในร้านค้าต่าง ๆ ในปี ค.ศ. 1747 อาชีพของคนในลอนดอน ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มีถึง 215 อาชีพ และเพิ่มขึ้นเป็น 492 อาชีพในปี ค.ศ. 1792 ในปี ค.ศ. 1700 ร้อยละ 20 ของประชากรในอังกฤษที่อาศัยอยู่ในเมือง 2 ใน 3 ของประชากรเมืองเหล่านี้อาศัยอยู่ในลอนดอน การขยายตัวของการค้าระหว่างประเทศได้ส่งผลให้กิจการธนาคารในลอนดอนได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ลอนดอนเป็นที่ตั้งของธนาคารทั้งในและต่างประเทศ ตลาดหุ้น กิจการการประกันภัย ฯลฯ การเจริญเติบโตดังกล่าวมีผลต่อพัฒนาการของการใช้นโยบายการค้าระหว่างประเทศ ในศตวรรษที่ 19 ซึ่งอังกฤษได้หันมาใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม (liberalism) แทนที่นโยบายพาณิชย์นิยม (mercantilism).

Harrods

สถานที่ท่องเที่ยว

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้แก่ พระราชวังบักกิงแฮม มหาวิหารเวสมินสเตอร์ หอนาฬิกาบิ๊กเบน สะพานลอนดอน หอคอยลอนดอน ซึ่งเป็นที่คุ้นหูนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเนิ่นนาน

  1. "The Global Financial Centres Index 10"[ลิงก์เสีย]
  2. ,8209-2081045, 00.html Focus: Squeezing the Big Apple -Louise Armitstead, Richard Fletcher, Mark Kleinman and Dominic Rushe (March 12, 2006) business.timesonline.co.uk (อังกฤษ)
  3. GLA - "Investing in London: The Case for the Capital" (2001) เก็บถาวร 2006-05-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน www.london.gov.uk (อังกฤษ)
  4. "เส้นเวลาประวัติศาสตร์อังกฤษ—อังกฤษโรมัน". บีบีซี. 7 มิถุนายน พ.ศ. 2551. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help) (อังกฤษ)
  5. ลอนดอนรั้งศูนย์พาณิชย์โลก กทม.ติดที่ 36 (อังกฤษ)

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น