หลักปฏิบัติที่ดีที่สุด

เรียนรู้เกี่ยวกับหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดในการแชร์ Facebook สำหรับเว็บไซต์และแอพมือถือของคุณเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้แอพที่ผู้ใช้เข้าใจและไว้วางใจ

คำแนะนำสำหรับเว็บไซต์

• ใช้ครอว์เลอร์ของ Facebook เพื่อสร้างพรีวิวของเนื้อหา Facebook ที่เผยแพร่แบบสาธารณะ

• คุณต้องเปิดใช้งานการเข้ารหัสแบบ GZIP และ/หรือ Deflate ในเว็บเซิร์ฟเวอร์ของคุณเพื่อให้ครอว์เลอร์ของเราแชร์เว็บไซต์ของคุณอย่างถูกต้อง

• ใช้แท็กเมตา Open Graph เพื่อให้แน่ใจว่าครอว์เลอร์ของ Facebook จะดึงแยกข้อมูลที่มีประโยชน์ เช่น ชื่อ คำอธิบาย และรูปภาพพรีวิว เกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณเมื่อมีการแชร์บน Facebook

• ใช้เครื่องมือตัวแก้ไขจุดบกพร่องการแชร์เพื่อทดสอบว่าเว็บไซต์ของคุณมีลักษณะอย่างไรในมุมมองของตัวดึงแยกข้อมูลของเรา เครื่องมือตัวแก้ไขจุดบกพร่องยังช่วยรีเฟรชข้อมูลที่ถูกดึงแยกใดๆ ที่เรามีสำหรับเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งจะมีประโยชน์หากคุณต้องการที่จะอัพเดตบ่อยกว่าระยะเวลามาตรฐาน 24 ชั่วโมง

• ติดตามการโต้ตอบของผู้คนบนเว็บไซต์ของคุณได้ในทันทีที่เกิดขึ้นด้วย Facebook SDK for JavaScript คุณสามารถสมัครรับข้อมูลเหตุการณ์ต่างๆ เช่น มีผู้คลิกปุ่มถูกใจ ส่งข้อความด้วยปุ่มส่ง หรือแสดงความคิดเห็น โปรดดูคู่มืออ้างอิง FB.Event.subscribe เพื่อเรียนรู้วิธีการติดตามเหตุการณ์เหล่านี้

• เปิดใช้ “การติดตาม” เพื่ออนุญาตให้ครีเอเตอร์เนื้อหาของคุณแชร์การอัพเดตสาธารณะกับผู้ติดตามได้ ในขณะที่จะแสดงการอัพเดตส่วนตัวให้กับเพื่อนเท่านั้น ตัวอย่างเช่น นักข่าวสามารถอนุญาตให้ผู้อ่านหรือผู้ดูติดตามเนื้อหาที่ตั้งค่าเป็นสาธารณะของตน กดถูกใจรูปภาพที่ถ่ายในสถานที่ หรือลิงก์ไปยังบทความที่เผยแพร่ได้ การติดตามเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพสำหรับกลุ่มเป้าหมายของคุณในการติดต่อกับคุณและติดตามเนื้อหาของคุณโดยไม่ต้องเพิ่มคุณเป็นเพื่อน

  • เปิดใช้งานการติดตาม - ไปที่การตั้งค่าบัญชีของเพจและคลิกที่แท็บผู้ติดตาม ทำเครื่องหมายที่ช่องอนุญาตผู้ติดตาม และหากคุณต้องการ คุณสามารถปรับการตั้งค่าของคุณสำหรับการแสดงความคิดเห็นหรือการแจ้งเตือนจากผู้ติดตามของคุณได้
  • เติมข้อมูลในไทม์ไลน์ของคุณ - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไทม์ไลน์ดูเป็นมืออาชีพโดยการเพิ่มรูปภาพหน้าปก ตำแหน่งงาน และประวัติการทำงาน เหตุการณ์สำคัญๆ ในอาชีพการทำงาน และเหตุการณ์ในชีวิต
  • สังเกตการณ์ – ติดตามนักข่าว ช่างภาพ ผู้สร้างอื่นๆ และผู้อื่นที่ได้มีการสร้างฐานผู้ติดตามขนาดใหญ่ เยี่ยมชมไทม์ไลน์ของบุคคลเหล่านั้นและดูชนิดของเนื้อหาที่แชร์
  • โพสต์ไปยังผู้ติดตามของคุณ - แชร์รูปภาพที่น่าสนใจ ลิงก์ไปยังเนื้อหาของคุณ และข้อมูลอัพเดตเกี่ยวกับงานที่คุณกำลังทำอยู่ ฯลฯ โพสต์ที่คุณตั้งค่าเป็นสาธารณะจะปรากฏแก่ผู้ติดตามของคุณในฟีด

รูปภาพ

• ใช้รูปภาพที่มีความกว้างอย่างน้อย 1080 พิกเซลเพื่อการแสดงผลที่ดีที่สุดในอุปกรณ์ที่มีความคมชัดสูง อย่างน้อยที่สุด คุณควรใช้รูปภาพที่มีความกว้าง 600 พิกเซลในการแสดงโฆษณาแบบลิงก์สำหรับรูปภาพ เราขอแนะนำให้ใช้รูปภาพที่มีอัตราส่วน 1:1 ในชิ้นงานโฆษณาของคุณเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่าสำหรับโฆษณาแบบลิงก์ของรูปภาพ
• แคชรูปภาพของคุณล่วงหน้าด้วยการเรียกใช้ URL ผ่านเครื่องมือตัวแก้ไขจุดบกพร่องการแชร์ URL เพื่อดึงเมตาดาต้าล่วงหน้าสำหรับเว็บไซต์ คุณควรดำเนินการนี้ด้วยเช่นกันหากคุณต้องการอัพเดตรูปภาพสำหรับเนื้อหาชิ้นใดชิ้นหนึ่ง
• ใช้แท็ก Open Graph og:image:width และ og:image:height เพื่อระบุขนาดของรูปภาพต่อครอว์เลอร์ เพื่อให้ครอว์เลอร์สามารถเรนเดอร์รูปภาพได้ทันทีโดยไม่ต้องดาวน์โหลดและประมวลผลรูปภาพแบบอะซิงโครนัส

รูปภาพสำหรับแอพเกม

• รูปภาพข้อมูล Open Graph จะปรากฏในรูปแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส อัตราส่วนรูปภาพสำหรับแอพเหล่านี้ควรเป็น 600 x 600 พิกเซล
• รูปภาพที่ไม่ใช่ข้อมูล Open Graph จะปรากฏในรูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า คุณควรใช้อัตราส่วนรูปภาพ 1.91:1 เช่น 600 x 314 พิกเซล

คำแนะนำสำหรับมือถือ

• ใช้ลิงก์ที่ไปยังแอพเพื่อลิงก์ไปยังตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจงในแอพของคุณจาก Facebook เพื่อช่วยให้เกิดประสบการณ์ที่ราบรื่น

• ใช้กล่องการส่งข้อความสำหรับการแชร์แบบส่วนตัว กล่องการส่งข้อความนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์เรื่องราวต่างๆ พร้อมเนื้อหาจากแอพของคุณในลักษณะที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นไปยังกลุ่มเป้าหมายแบบจำกัดและเจาะจงมากขึ้นโดยใช้ Facebook Messenger ได้

• ติดตามเหตุการณ์ในแอพของคุณด้วยตัวจัดการเหตุการณ์ของ Facebook

• ใช้ส่วนหัว HTTP ผู้ใช้-ตัวแทน เพื่อติดตามจำนวนผู้เข้าชมที่ส่งต่อจากมือถือมายังเว็บไซต์จาก Facebook ใน iOS หรือ Android สิ่งนี้เกิดขึ้นได้บ่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ใช้แชร์ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณไปที่ฟีดข่าวและผู้ที่ติดต่อกับบุคคลนั้นคลิกที่ลิงก์บนมือถือ แอพของคุณควรจะ:

  • มองหาส่วนหัว HTTP ผู้อ้างอิง ที่มีค่าซึ่งรวมถึง facebook.com
  • ดูว่าผู้เข้าชมที่เกิดจากการส่งต่อนั้นเกิดขึ้นจาก Facebook ใน iOS, Android หรือเว็บเบราว์เซอร์บนมือถือบนช่องทางเหล่านี้ ตรวจหา HTTP User-Agent ที่มีค่า FB_IAB/FB4A สำหรับ Android และ FBAN/FBIOS สำหรับ iOS